โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่มีความร้ายแรงและอันตรายถึงชีวิต เกิดจากเชื้อไวรัส Rabies virus (RABV) ในตระกูล Rhabdoviridae ซึ่งสามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ผ่านทางน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อ
การติดต่อ
โรคพิษสุนัขบ้าติดต่อผ่าน
- การถูกสัตว์ที่ติดเชื้อกัด ข่วน หรือเลียบริเวณแผลเปิด
- การสัมผัสน้ำลายของสัตว์ติดเชื้อผ่านเยื่อบุตา ปาก หรือจมูก
สัตว์ที่เป็นพาหะ
- สุนัข (เป็นพาหะหลักในประเทศไทย)
- แมว
- ค้างคาว
- สัตว์ป่า เช่น หมาป่า, สุนัขจิ้งจอก, แรคคูน
อาการของโรค
ระยะฟักตัวของโรคอาจใช้เวลาตั้งแต่ 1 สัปดาห์ ถึง หลายเดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของแผลและปริมาณไวรัสที่ได้รับ เมื่อเชื้อเข้าสู่ระบบประสาท อาการจะรุนแรงและถึงแก่ชีวิตภายในไม่กี่วัน
อาการระยะแรก:
- มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ
- คันหรือเจ็บบริเวณที่ถูกกัด
อาการระยะรุนแรง:
- กลัวน้ำ (Hydrophobia) และกลืนลำบาก
- กลัวลม และไวต่อเสียงหรือแสง
- พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง ก้าวร้าว หรือซึมเศร้า
- กล้ามเนื้อกระตุก อัมพาต และเสียชีวิตในที่สุด
การรักษาและป้องกัน
ปัจจุบันยัง ไม่มีวิธีรักษาโรคพิษสุนัขบ้าเมื่อแสดงอาการ ดังนั้น การป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
การป้องกัน:
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ให้กับสุนัขและแมวเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์แปลกหน้า โดยเฉพาะสัตว์ที่มีพฤติกรรมผิดปกติ
- หากถูกกัดหรือข่วน:
- ล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดนาน 10-15 นาที
- ทายาฆ่าเชื้อ เช่น เบตาดีน
- รีบไปพบแพทย์เพื่อรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและอิมมูโนโกลบูลิน (RIG) หากจำเป็น
โรคพิษสุนัขบ้าเป็น โรคที่ป้องกันได้ 100% หากได้รับวัคซีนหลังถูกกัด ดังนั้น การป้องกันและรับวัคซีนจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
ถ้าสุนัขที่ติดโรคพิษสุนัขบ้ากัดวัว เนื้อวัวจะมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่
หากสุนัขที่ติดโรคพิษสุนัขบ้ากัดวัว มีโอกาสที่เชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้าจะเข้าสู่ร่างกายของวัวผ่านบาดแผล อย่างไรก็ตาม โรคพิษสุนัขบ้าไม่สามารถติดต่อผ่านทางการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกแล้ว
โอกาสที่เนื้อวัวจะมีเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า
ถ้าวัวติดเชื้อพิษสุนัขบ้า
- วัวอาจติดเชื้อได้หากถูกกัดและเชื้อเข้าสู่ระบบประสาท
- เมื่อแสดงอาการ วัวจะมีอาการทางระบบประสาท เช่น น้ำลายไหล กลืนลำบาก เดินเซ ก้าวร้าว
- เมื่อเข้าสู่ระยะรุนแรง วัวจะเสียชีวิตภายในไม่กี่วัน
ไวรัสพิษสุนัขบ้าอยู่ในระบบประสาทและน้ำลาย
- ไวรัสจะพบมากใน สมอง ไขสันหลัง และน้ำลาย ของสัตว์ที่ติดเชื้อ
- ไม่พบไวรัสในเนื้อสัตว์ (กล้ามเนื้อ) ในปริมาณที่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้
ไวรัสถูกทำลายด้วยความร้อน
- เชื้อพิษสุนัขบ้าจะถูกทำลายที่อุณหภูมิ ≥ 60°C ภายในไม่กี่นาที
- การปรุงอาหารให้สุก (เช่น ต้ม ปิ้ง ย่าง) จะช่วยกำจัดเชื้อไวรัส
ข้อควรระวัง
- หลีกเลี่ยงการบริโภค สมอง ไขสันหลัง และน้ำลาย ของสัตว์ที่อาจติดเชื้อ
- หากวัวมีพฤติกรรมผิดปกติหรือมีประวัติถูกสัตว์ที่ติดเชื้อกัด ควรแจ้งสัตวแพทย์และหลีกเลี่ยงการนำมาบริโภค
- หากสัมผัสเลือด น้ำลาย หรือเนื้อวัวที่สงสัยว่าติดเชื้อโดยมีบาดแผล ควรล้างมือและบาดแผลให้สะอาด และรีบพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ
สรุป
ไวรัสพิษสุนัขบ้าไม่ติดต่อผ่านเนื้อวัวที่ปรุงสุกแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคสัตว์ที่สงสัยว่าติดเชื้อ และปรุงอาหารให้สุกเสมอ