PHP Operators การดำเนินการทาง PHP

Operators คืออะไร

Operators ก็คือการดำเนินการต่าง ๆ อย่างเช่น 5 + 4 = 1 ซึ่ง 4 กับ 5 จะถูกเรียกกว่า operands และ + กับ = ก็เรียกกว่า Operators นั่นเอง

ชนิดของ Operator ในภาษา PHP

- Arithmetic Operators
- Comparision Operators
- Logical (or Relational) Operators
- Assignment Operators
- Conditional (or ternary) Operators

Arithmatic Operators

เป็นการดำเนินการทางคณิตศาสตร์ ดังตัวอย่างด้านล่าง ให้ a = 10 และ b = 20

Operator	คำอธิบาย	ตัวอย่าง
+	การบวกกันของ 2 operands	A + B จะได้เท่ากับ 30
-	การลบกันของ 2 operands	A - B จะได้เท่ากับ -10
*	การคูณกันของ 2 operands	A * B จะได้เท่ากับ 200
/	การหารกันของ 2 operands	B / A จะได้เท่ากับ 2
%	การ mod กันของ 2 operands	B % A จะได้เท่ากับ 0
++	การเพิ่มค่า operands ขึ้น 1 ใช้สำหรับ integer	A++ จะได้เท่ากับ 11
--	การลดค่า operands ลง 1 ใช้สำหรับ integer	A-- จะได้เท่ากับ 9

Comparison Operators

เป็นการเปรียบเทียบกันของ 2 operands ซึ่งดังตัวอย่าง ให้ a = 10 และ b = 20

Operator	คำอธิบาย	ตัวอย่าง
==	เช็คว่า 2 operands เท่ากันหรือไม่ ถ้าเท่าจะคืนจริง ถ้าไม่เท่าจะคืนเท็จ	(A == B) จะได้เท่ากับ false.
!=	เช็คว่า 2 operands ไม่เท่ากันหรือไม่ ถ้าเท่าจะคืนเท็จ ถ้าไม่เท่าจะคืนจริง	(A != B) จะได้เท่ากับ true
>	เช็คค่า operands ทางซ้ายว่า มากกว่าทางขวาหรือไม่ ถ้ามากกว่าจะคืนจริง ถ้าไม่ใช่จะคืนเท็จ	(A > B) จะได้เท่ากับ false.
<	เช็คค่า operands ทางซ้ายว่า น้อยกว่าทางขวาหรือไม่ ถ้าน้อยกว่าจะคืนจริง ถ้าไม่ใช่จะคืนเท็จ	(A < B) จะได้เท่ากับ true
>=	เช็คค่า operands ทางซ้ายว่า มากกว่าหรือไม่เท่าทางขวาหรือไม่ ถ้ามากกว่าหรือเท่ากับจะคืนจริง ถ้าไม่ใช่จะคืนเท็จ	(A >= B) จะได้เท่ากับ false.
<=	เช็คค่า operands ทางซ้ายว่า น้อยกว่าหรือเท่ากับทางขวาหรือไม่ ถ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับจะคืนจริง ถ้าไม่ใช่จะคืนเท็จ	(A <= B) จะได้เท่ากับ true

Logical Operators

เป็นการเปรียบเทียบทางตรรกกระ ซึ่งดังตัวอย่าง ให้ a = 10 และ b = 20

Operator	คำอธิบาย	ตัวอย่าง
and	เรียกว่า and ถ้าทั้ง 2 operands เป็นจริง จะได้จริง	(A and B) จะได้เท่ากับ true
or	เรียกกว่า or ถ้า operands อันใดอันหนึ่งเป็นจริง จะได้จริง	(A or B) จะได้เท่ากับ true
&&	เรียกว่า and ถ้าทั้งสอง ไม่ใช่ 0 จะคืนจริง	(A && B) จะได้เท่ากับ true
||	เรียกว่า or ถ้า operands อันใดอันหนึ่ง ไม่ใช่ 0 จะคืนจริง	(A || B) จะได้เท่ากับ true
!	เรียกว่า not ถ้าเป็นจริง จะได้เท็จ ถ้าเป็นเท็จจะได้จริง	!(A && B) is false.

Assignment Operators

เป็น operators ที่ใช้สำหรับกำหนดค่า

Operator	คำอธิบาย	ตัวอย่าง
=	ใช้สำหรับกำหนดให้เท่ากับ	C = A + B will assigne value of A + B into C
+=	กำหนดค่าทางซ้ายให้เท่ากับ ทางซ้ายบวกทางขวา	C += A is equivalent to C = C + A
-=	กำหนดค่าทางซ้ายให้เท่ากับ ทางซ้ายลบทางขวา	C -= A is equivalent to C = C - A
*=	กำหนดค่าทางซ้ายให้เท่ากับ ทางซ้ายคูณทางขวา	C *= A is equivalent to C = C * A
/=	กำหนดค่าทางซ้ายให้เท่ากับ ทางซ้ายหารทางขวา	C /= A is equivalent to C = C / A
%=	กำหนดค่าทางซ้ายให้เท่ากับ ทางซ้าย mod ทางขวา	C %= A is equivalent to C = C % A

Conditional Operators

เป็น operators ที่ใช้สำหรับการกำหนดเงื่อนไง การตัดสินใจ

Operator	คำอธิบาย	ตัวอย่าง
? :	Conditional Expression	($a == $b)? $c = 4 : $c = 5;

ลำดับความสำคัญของ Operators

ในบางครั้งการคำนวณเลข เช่น 4 + 3 * 2 = 10 ซึ่งการคำนวณนี้ จะเอา 3 คูณ 2 ก่อน แล้วจึงค่อยมาบวก 4 ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า การคูณ มีความสำคัญกว่าการบวก แต่ถ้ามีความสำคัญเท่ากับ จะไล่จากซ้ายไปขวา เช่น 4 + 3 + 2 = 9 ซึ่งลำดับความสำคัญต่าง ๆ ดูได้จากตารางด้านล่างนี้

Category	Operator	Associativity
Unary	! ++ --	Right to left
Multiplicative	* / %	Left to right
Additive	+ -	Left to right
Relational	< <= > >=	Left to right
Equality	== !=	Left to right
Logical AND	&&	Left to right
Logical OR	||	Left to right
Conditional	?:	Right to left
Assignment	= += -= *= /= %=	Right to left