นิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ปลาแดกปลาสมอ (ท้าวบุสบา) อักษรธรรม ๑ ผูก วัดม่วงสามสิบ อ.ม่วงสามสิบ จ. อุบลราชธานี ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีบ้านประมาณ ๓๐๐ หลังคาเรือน ตาแสง (กำนัน) ของหมู่บ้านนี้มีภรรยาชื่อนางบัวไข และมีลูกชายคนหนึ่งชื่อท้าวบัวพันชั้น ครั้นลูกชายอายุได้ ๑๒ ขวบ พ่อได้ตายลง นางบัวไขจึงเป็นหม้าย เลี้ยงลูกชายต่อมา เมื่อลูกชายโตเป็นหนุ่ม นางไปขอลูกสาวของพญาคนหนึ่งมาให้เป็นภรรยา ท้าวบัวพันชั้นกับนางปัททุมมาอยู่กินกันมาถึงเจ็ดปี จึงมีลูกชายคนหนึ่ง ชื่อบุสบา เมื่อบุสบาอายุได้ ๖ ขวบ พ่อและแม่ได้ตายไป หนูน้อยบุสบาจึงอยู่กับยายต่อมา แล้วฐานะทางครอบครัวก็ตกต่ำลงจนถึงขนาดยากจน อยู่มาครั้งหนึ่งไปตกปลาได้ปลาสมอมามากมายจึงทำเป็นปลาร้า ปลาเค็มไว้เมื่อถึงคราวพวกพ่อค้าเอาสิ่งของไปขายยังเมืองอื่น ท้าวบุสบาจึงเอาของไปฝากกับพวกพ่อค้าทางบก แต่พ่อค้าไม่รับเพราะมันหนักและไม่มีที่จะบรรจุ จึงเอาไปฝากกับพ่อค้าสำเภา นายสำเภาเอาไปขายที่เมืองพาราณสี แต่ขายไม่ออกจึงคิดว่าพรุ่งนี้จะแจกฟรีก่อนเดินทางกลับ ร้อนถึงพระอินทร์ได้ลงมาเอาของทิพย์ใส่ในปลาร้า ทำให้ปลาร้าหอมไปทั่วเมือง นายสำเภาจึงแบ่งเอาไปถวายพระมหากษัตริย์ครึ่งหนึ่ง พระราชาจึงตอบแทนด้วยการใส่ของมีค่าลงในไหแล้วส่งคืน นายสำเภาก็เอามาคืนท้าวบุสบา และท้าวบุสบาก็ไม่ได้เปิดดูเอาไหนั้นตั้งไว้หัวนอนบูชาทุกวัน อยู่มาอีกวันหนึ่ง นายสำเภาไปค้าขายอีก แต่ไปเมืองราชคฤห์ ท้าวบุสบาจึงฝากไหปลาร้านั้นไปถวายพญาตุมวางฟ้าฮ่วน เจ้าเมืองราชคฤห์ เมื่อพญาตุมวางฟ้าฮ่วนเปิดดูได้พบของมีค่ามากเช่นนั้นจึงให้หมอโหรทายดูรู้ว่าท้าวบุสบาเป็นผู้มีบุญจึงได้ยกลูกสาวชื่อนางมาตฟ้าให้ โดยให้นางมาตฟ้าอยู่ในโพรงงาช้างทิพย์ แล้วมอบผ่านนายสำเภาไปให้ เมื่อท้าวบุสบาได้รับแล้วก็เอาไปรักษาไว้อย่างดี ต่อมานางมาตฟ้าปรากฏตัวออกมาให้เห็น ทั้งสองจึงอยู่กินกันแบบสามีภรรยา และนางมาตฟ้าได้เนรมิตบ้านเรือนของใช้สอยอย่างอุดมสมบูรณ์ ต่อมาความงามของนางได้เล่าลือไปถึงพระเจ้าพรหมทัตเจ้าเมือง พระองค์จึงคิดอยากจะได้นางมาตฟ้ามาเป็นมเหสี จึงพยายามจะทำให้ท้าวบุสบาตายแล้วเอานางมาตฟ้ามาเป็นมเหสี จึงใช้ให้ท้าวบุสบาไปเอาของที่หาได้ยากๆ เช่น น้ำนมเสือโคร่ง น้ำนมราชสีห์ น้ำนมช้าง เป็นต้น ถ้าหาไม่ได้จะต้องถูกประหารชีวิต ท้าวบุสบาก็หามาได้ทุกครั้งโดยมีนางมาตฟ้าช่วยจนครั้งสุดท้ายพระเจ้าพรหมทัตใช้ให้ท้าวบุสบาไปเอาสิ่งของเงินทองที่พระองค์ทำบุญไปให้คนตามเมื่อหลายปีมาแล้วที่เมืองนรกและสวรรค์ ท้าวบุสบาก็เอาได้จริงๆ โดยมีนางมาตฟ้าช่วยอีก โดยที่ท้าวบุสบายอมให้เขามัดแขนมัดขาแล้วให้ยกเข้าในกองไฟ แต่เมื่อครบ ๓ วันนางมาตฟ้าก็เอาน้ำมนต์ชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ ส่วนพระราชาเมื่อทราบว่าท้าวบุสบาไปนรกสวรรค์ได้ จึงอยากจะไปบ้าง จึงทำแบบเดียวกันกับท้าวบุสบา ผลปรากฏว่าพระองค์ตายไม่ฟื้นเลย ดังนั้นราชบัลลังก์ก็จึงว่างลง พวกเสนาอำมาตย์จึงทำพิธีเสี่ยงราชรถ ราชรถนั้นได้มาเกยเอาท้าวบุสบาและนางมาตฟ้าให้ครองราชสมบัติต่อมา และพระราชาองค์ใหม่ก็ปกครองบ้านเมืองอย่างสงบสุขโดยทั่วหน้า